× กลับหน้าหลัก

☰ ระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษา


สำหรับนักศึกษาปัจจุบัน
  • ระบบบริการการศึกษา
  • ระบบอัปโหลดรูปภาพ นศ.
  • ระบบโฮมรูม
  • ระบบสารสนเทศสหกิจศึกษา
  • ระบบกิจกรรมนักศึกษา
  • ระบบคำร้องขอสำเร็จการศึกษาออนไลน์
  • ระบบประเมินการเรียนการสอนออนไลน์
  • ลงทะเบียน RBRU Google Mail
  • ระบบออกใบรับรองออนไลน์
  • ระบบสอบวัดความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ
  • RBRU MOOC
  • วีดีโอการเรียนการสอนย้อนหลัง
  • ระบบลงทะเบียนรับสิทธิ Microsoft 365
  • โปรแกรมพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยตนเอง(EDO)

  • สำหรับ บัณฑิต/ศิษย์เก่า
  • ระบบภาวะการมีงานทำของบัณฑิต

  • สำหรับ ผู้สนใจศึกษาต่อ
  • ระบบรับสมัครนักศึกษาออนไลน์
  • โครงการเรียนล่วงหน้า(คลังหน่วยกิต)
  • × CLOSE

    คณะ

    หน่วยงาน

    หน่วยงานอื่นๆ
    Thai rbru Eng rbru

    เกี่ยวกับรำไพฯ

    ประวัติความเป็นมา

    มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เป็นสถาบันอุดมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่เลขที่ 41 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 6 กิโลเมตร บริเวณสามแยกเขาไร่ยา ด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัยติดกับถนนรักศักดิ์ชมูล อีกด้านหนึ่งติดกับถนนสุขุมวิท มีเนื้อที่ 720 ไร่ 3 งาน

    มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ประกาศจัดตั้งครั้งแรกในฐานะ “วิทยาลัยครูจันทบุรี” เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2515 บริเวณที่เป็นสวนบ้านแก้ว พระราชฐานส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินินาถในรัชกาลที่ 7 โดยพระองค์พระราชทานไห้กระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กระทรวงได้ขอพระราชทานซื้อในราคา 18 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งเป็นวิทยาลัยครูจันทบุรี

    วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2516 วิทยาลัยครูจันทบุรีได้รับพระราชทานตราศักดิเดชน์ ซึ่งเป็นตราประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นตราของวิทยาลัยและใช้ สีชมพู-เขียว เป็นสีของวิทยาลัย สีชมพู แสดงถึงความเมตตากรุณา สุภาพ อ่อนโยนและเป็นสีประจำวันอังคาร ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีและ สีเขียว แสดงถึงความเจริญงอกงามซึ่งเป็นสีประจำวันพุธ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7


    ตรา “ศักดิเดชน์”

    วิทยาลัยครูจันทบุรี เปิดสอนครั้งแรกในประกาศนียบัตรนียบัตรชั้นสูงใน พ.ศ. 2515 โดยใช้อาคารเรียนชั่วคราวบริเวณโรงเลี้ยงไก่ส่วนพระองค์เป็นห้องเรียน นักศึกษารุ่นแรกจึงเรียกกันติดปากว่า “รุ่นเล้าไก่”

    ปี พ.ศ. 2518 ได้เปิดสอนระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการศึกษาตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2528 จึงเปิดสอนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และสาขาศิลปะศาสตร์เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครูฉบับแก้ไข พ.ศ. 2527

    ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2528 วิทยาลัยครูจันทบุรีได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ เป็นนามของวิทยาลัยว่า “วิทยาลัยรำไพพรรณี”

    วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2533 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ได้พระราชทานคติธรรมประจำให้แก่วิทยาลัยรำไพพรรณี เป็นภาษาบาลีว่า “ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ” แปลว่า “บัณฑิตย่อมฉลาดจัดการ”

    วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานชื่อใหม่ไห้แก่วิทยาลัยครูทั่วประเทศตามที่กรมการฝึกหัดครูได้ขอพระราชทานคือ สถาบันราชภัฏ ต่อมากรมการฝึกหัดครูได้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฏรแล้วและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2538 จึงมีผลทำให้วิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีมีฐานะเป็น สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี

    ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 สถาบันได้เปิดสอนนักศึกษาภาคพิเศษตามโครงการการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลากรประจำการ (กศ.บป.) ที่ศูนย์สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี และต่อมาปี พ.ศ. 2537 จึงขยายศูนย์ให้การศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ (กศ.บป.) นอกสถาบันที่ศูนย์จังหวัดระยอง โดยความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคนิคระยองและโรงเรียนระยองวิทยาคม และต่อมาปี พ.ศ. 2540 มีผู้สมัครเข้าเรียนที่ศูนย์ระยองเพิ่มขึ้นจึงย้ายศูนย์ให้การศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคระยองมาเปิดศูนย์แห่งใหม่ที่โรงเรียนเทคโนโลยี ทีพีไอ จังหวัดระยอง

    ปี พ.ศ. 2542 สถาบันราชภัฏรำไพพรรณีเปิดสอนระดับบัณฑิตศึกษาครั้งแรกในภาคพิเศษ สาขาการบริหารการศึกษาใน พ.ศ. 2543 เปิดสอนสาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา และ พ.ศ. 2544 เปิดสอนสาขาหลักสูตรการสอน

    ปี พ.ศ. 2544 สถาบันได้ปรับเปลี่ยนโครงการจัดการศึกษาภาคพิเศษทั้งหมดเป็น โครงการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (กศ.ปช.) ตามประกาศของคณะกรรมการสภาสถาบันราชภัฏ ดังนั้นภายใต้โครงการ กศ.ปช. จึงประกอบด้วยสามโครงการย่อยคือ โครงการ กศ.บป. โครงการ กศ.อช. และโครงการบัณฑิตศึกษา

    วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2547 มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทำให้สถาบันราชภัฏรำไพพรรณีเปลี่ยนสถานะเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี


    ตรา “พระราชลัญจกร”

    ทำหน้าที่ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นเสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดินฟื้นฟูพลังการเรียนรู้ เชิดชูพลังของแผ่นดิน ประกอบด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้

    1. คณะครุศาสตร์
    2. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    3. คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
    4. คณะเทคโนโลยีการเกษตร
    5. คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมบัณฑิต
    6. คณะวิทยาการจัดการ
    7. สำนักงานอธิการบดี

    นับตั้งแต่ได้เปลี่ยนสภาพเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เมื่อปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ระดับคณะ ดังนี้

    1. คณะนิติศาสตร์ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2550
    2. บัณฑิตวิทยาลัย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2552
    3. คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552
    4. คณะนิเทศศาสตร์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2552
    5. สำนักบริการวิชาการ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2552
    6. คณะอัญมณีศาสตร์และประยุกต์ศิลป์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2553
    7. คณะพยาบาลศาสตร์ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2553


    มหาวิทยาลัยราชภัฏได้ดำเนินการเปิดสอนหลักสูตรใหม่และหลักสูตรปรับปรุง ระดับปริญญาตรี จำนวน 46 สาขาวิชา ดังนี้

    1. หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 5 ปี) จำนวน 8 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา สาขาวิชาพลศึกษา สาขาวิชาภาษาอังกฤษ สาขาวิชาภาษาไทย สาขาวิชาสังคมศึกษา
    2. หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการจัดการ สาขาวิชาการเงินธนาคาร สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ สาขาวิชาการตลาด สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
    3. หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาสื่อสารมวลชน สาชาวิชาสื่อสารบูรณาการ
    4. หลักสูตรศิลปะศาสตร์ (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 7 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ สาขาวิชาภาษาไทย สาขาวิชาภาษาจีน สาขาวิชาดนตรี สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว
    5. หลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ สาขาวิชาศิลปกรรม
    6. หลักสูตรรัฐประศาสนศาตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 1 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชารับประศาสนศาสตร์
    7. หลักสูตรรัฐศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน สาขาวิชา ได้แก่ สาขารัฐศาสตร์
    8. หลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 1 สาขาวิชา ได้แก่ สาขานิติศาสตร์
    9. หลักสูตรบัญชีบัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 4 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาบัญชีบัณฑิต
    10. หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 4 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมโลจิสติกส์ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สาขาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร
    11. หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 14 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาเคมี สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม สาขาวิชาสถิติประยุกต์ สาขาวิชาชีววิทยา สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชาการคอมพิวเตอร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สาขาวิชาภูมิสารสนเทศ สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการทำอาหาร สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิชาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สาขาวิชาอัญมณีศาสตร์

    คติธรรมประจำมหาวิทยาลัย

    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ประทานคติธรรมประจำวิทยาลัยรำไพพรรณี สหวิทยาลัยศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2533 เป็นภาษาบาลีว่า “ ปณฺฑิโต นิปุณํ สํวิเธติ ” แปลว่า “ บัณฑิต ย่อมฉลาดจัดการ ”

    สีประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

    สีเขียว หมายถึง ความเจริญงอกงามและเป็นสีประจำวันพุธ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

    สีชมพู หมายถึง ความเมตตากรุณา สุภาพอ่อนโยน นับเป็นคุณธรรมสำคัญของผู้เป็นครูและเป็นสีประจำวันอังคาร ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพ ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7

    รหัสสีชมพูได้แก่ A1 C0 M100 Y30 K0 รหัสสีเขียวได้แก่ B2 C90 M20 Y100 K0

    พระราชลัญจกร

    ประเภทของพระราชลัญจกร พระราชลัญจกร คือ ตราประจำชาติ ซึ่งใช้ประทับในต้นเอกสารสำคัญของพระมหากษัตริย์ และราชการแผ่นดิน จัดเป็นหมวดหมู่ได้ 3 ประเภท ดังนี้


    พระราชลัญจกรประจำ พระองค์
    พระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน
    พระราชลัญจกรสำหรับแผ่นดิน

    พระราชลัญจกรประจำพระองค์

    หมายถึงพระตราที่ใช้ประทับกำกับพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ในต้นเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ซึ่งไม่เกี่ยวด้วยราชการแผ่นดิน เช่นในประกาศนียบัตรกำกับเหรียญรัตนาภรณ์ เป็นต้น พระราชลัญจกรประจำพระองค์แต่ละรัชกาลมีรูปสัญลักษณ์ต่าง ๆ กันไป ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1-4 เท่าที่มี หลักฐานปรากฎพบว่าในเงินพดด้วงมีรูปจักรดวงหนึ่ง และพระราชสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ 1 เป็นรูปปทุมอุณาโลม รัชกาลที่ 2 เป็นรูปครุฑยุดนาค รัชกาลที่ 3 เป็นรูปปราสาท รัชกาลที่ 4 เป็นรูปพระมหามงกุฎ โดยที่รูปจักรจะไม่เปลี่ยนไปตามรัชกาลเนื่องจากเป็นพระราชสัญลักษณ์ สำหรับพระบรมราชวงศ์ซึ่งปกครองรัฐสีมามณฑลอยู่ นอกจากนั้นพบหลักฐานที่ปรากฎรูปพระราชสัญลักษณ์ ที่ใบปกคัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับหลวง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในแต่ละรัชสมัยดังที่กล่าวมาแล้ว ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงกระษาปณ์สิทธิการขึ้น เพื่อผลิตเงินเหรียญบาทแทนเงินพดด้วง ตราที่ใช้ในเงินเหรียญนั้น ด้านหนึ่งของเหรียญยังคงเป็นรูปจักร โดยเติมรูปช้างเผือกกลางรูปจักร อีกด้านหนึ่งเป็นรูปพระมหามงกุฎมีเครื่องสูงตั้งขนาบทั้งสองข้าง ต่อมาได้ทรงพระกรุณาให้สร้างพระราชลัญจกรประจำพระองค์ เพื่อประทับในต้นเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ ที่ไม่เกี่ยวด้วยราชการแผ่นดิน และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตลอดมา เมื่อมีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชลัญจกรประจำพระองค์

    พระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 9

    พระราชลัญจกรประจำพระองค์ รัชกาลที่9 เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระเป็นอุหรือเลข 9 รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออกโดยรอบ เหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตรเจ็ดชั้น ฉัตรตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศ แปลความหมายว่า ทรงมีพระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน โดยที่วันบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณีได้เสด็จประทับเหนือพระที่นั่ง อัฐทิศ สมาชิกรัฐสภาถวายน้ำอภิเษกจากทิศทั้งแปด นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ทรงรับน้ำอภิเษกจากสมาชิกรัฐสภาแทนที่จะทรงรับจากราชบัณฑิตดังในรัชกาลก่อน
    ที่มา : จากหนังสือพระราชลัญจกร

    สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

    สัญลักษณ์ ประจำมหาวิทยาลัย เป็นรูปพระราชลัญจกรประจำพระองค์ รัชกาลที่ 9 เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยวงจักรกลางวงจักรมีอักขระเป็น อุ หรือเลข ๙ รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออก ในรอบเหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตรเจ็ดชั้นตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศ และรอบนอกด้านบนมีตัวอักษรภาษาไทยว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี” ด้านล่างมีอักษรภาษาอังกฤษว่า “RAMBHAI BARNI RAJABHAT UNIVERSITY” สีของสัญลักษณ์ประกอบด้วย 5 สี ดังนี้

    น้ำเงิน แทนค่า สถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิดและพระราชทานนาม “ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ”
    สีเขียว แทนค่า แหล่งที่ตั้งของมหาวิทยาลัยในแหล่งธรรมชาติมีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม
    สีทอง แทนค่า ความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา
    สีส้ม แทนค่า ความรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นก้าวไกล
    สีขาว แทนค่า ความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

    ที่มาของรูปแบบตัวอักษรราชภัฏสัญลักษณ์์

    แสดงถึงพระ ราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างชัดเจน ในประเด็นการปรับแผนการศึกษา ของชาติที่เด่นชัด โดยพัฒนาจากระบบ บ้าน วัด วัง และโรงเรียน โดยเฉพาะเมื่อโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ขึ้นเป็นครั้งแรก ทรงใช้กระบวนการทางปัญญาแก้ปัญหาระบบการพัฒนาประเทศ ตัวอักษรจึงเป็นประเด็นสำคัญในการจัดวางรูปแบบ ดังนั้น ตัวอักษรไทยในราชภัฏสัญลักษณ์ จึงมีโครงสร้างในลักษณะใกล้เคียงระบบสากล คือใช้อักษรโรมันแบบ Gothic หรือตัวอักษรอังกฤษแบบ Old English และอักษรขอม เป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบตัวอักษร ให้สามารถแทนค่าความรู้สึกในการสื่อสารร่วมสมัย และแสดงความสูงส่งแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์

    สถานที่ตั้ง

    มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรรณี ตั้งอยู่เลขที่ 41 หมู่ 5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ติดกับถนนจันทบุรี-สามแยกเขาไร่ยา (ถนนรักศักดิ์ชมูล) ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร อีกด้านหนึ่งติดถนนสุขุมวิท กิโลเมตรที่ 326 มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มีเนื้อที่รวม 720 ไร่ 3 งาน ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และมีเนื้อที่สถานีทดลองการเกษตรแก่งหางแมว กิ่งอำเภอแก่งหางแมว อีกประมาณ 370 ไร่

    ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย


    ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือ ดอก ชัยพฤกษ์
    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia javanica L.
    ชื่อสามัญ : Javanese Cassia , Rainbow Shower
    Best Viewed In
    มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี 41 ม. 5 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000
    โทรศัพท์ : 039-319111 ต่อ 0,10164-6 , แฟกซ์ : 039-471069, อีเมล : saraban@rbru.ac.th
    ติดต่อ | เบอร์โทรศัพท์ | แผนที่รำไพฯ | แผนที่ตั้ง (Google Map) | สายตรงอธิการ | ติดต่อ IT-Support | หน่วยประชาสัมพันธ์
    (รับเรื่องร้องเรียน ติดต่อนิติกรเพื่อดำเนินการ โทร. 039-319111 ต่อ 10117-8)
    ipv6 rambhai